top of page
บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่ ประเทศไทย

เจอ สัก ที

ตำราเรียนสัก 101 บอกว่าอย่าเปิดร้านบนเขา

 

แต่เราไม่เชื่อ

ช่างสักบนเขา กับ สตูดิโอที่ทำให้รู้สึกเหมือนมาบ้านเพื่อน

กระจกเงา และจุดเริ่มต้น 

.
.

.
"โตขึ้นอยากเป็นอะไร"

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงได้ยินบ่อยๆ(จนเบื่อ)ตอนเด็กๆ  แล้วก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงพูด(ในใจ)ว่า “ไม่รู้โว้ย”

ผมเองก็เป็นหนึ่งที่”ไม่รู้โว้ย”ครับ ไม่ได้มีความฝันอะไรเป็นพิเศษ รู้แต่ว่าชอบวาดรูป ทีนี้พอไม่ได้มีความฝันอะไรผมก็เลยเลือกเรียนบริหาร พอไปเรียนก็ปรากฎว่าเรียนได้ดีแหะ ได้เกียรตินิยมอันดับ 2 หรือ 3 นี่แหละไม่แน่ใจ พอเรียนดีแบบนี้ก็เริ่มเห็นอนาคต ทีนี้ไม่วาดรูปละหะ เริ่มวาดฝันตัวเองว่าจะเป็นตัวท๊อปในบริษัทดังๆแทน หลังจากเรียนจบผมก็มีแผนจะไปเรียนต่อที่แคนาดา แต่พอดีมีช่วงเวลาสั้นๆที่ต้องรอวีซ่าผมเลยไปทำอาสาที่มูลนิธิกระจกเงา

คืนหนึ่งผมได้นั่งคุยกับเพื่อนที่ทำอาสาด้วยกัน คุยไปคุยมาเพื่อนก็มีคำถามขึ้นมาว่า “มึงชอบทำอะไรวะ” ผมก็ตอบแบบ เอ่อ..วาดรูปมั้ง เพื่อนก็เลยขอให้ผมลองวาดให้ดูแล้วปรากฎว่าเค้าชอบมากจนเค้าเอารูปนั้นไปสัก ตอนนั้นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมกลับมาวาดรูปอย่างจริงจังหลังจากที่วางดินสอไปนาน

มูลนิธิกระจกเงา จุดเริ่มต้นของบ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
รูปวาดที่เป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพสัก
ห้องทำงานในกระจกเงา เลอะนิดนึงอ่ะ 55

เรียนต่อแคนาดา แต่จบจากฟาร์มที่ญี่ปุ่น

ผมกลับมารักการวาดรูปอีกครั้งครับ แล้วก็วาดเป็นงานอดิเรกระหว่างเรียนและฝึกงานที่แคนาดา พอใกล้จะจบและรู้ว่าต้องกลับบ้านไปหางานทำในบริษัท ผมก็แอบมีความคิดแวปเข้ามาว่า “เอ นี่มันใช่สิ่งที่กูจะทำแล้วหรอวะ” แต่พอดีว่าวีซ่าของผมยังไม่หมดผมก็เลยเลือกจะไปทำฟา..

อ่อ จริงๆแล้วผมก็มีความฝันนะตอนเด็กๆ คืออยากจะไปทำฟาร์มในต่างประเทศครับ แบบที่มีโรงเรือนใหญ่ๆ วัว หมู ม้า เดินไปเดินมา
ผมก็เลยใช้ช่วงเวลาสั้นๆหลังจากเรียนจบไปทำอาสาที่ฟาร์มในชนบทของแคนาดาครับ ได้ทำหลายอย่างเลย ทั้งให้อาหารสัตว์ ไปจนถึงต้อนสัตว์ ตามจับม้าที่หลุด ตามหาหมาที่หาย ทำคลอดลูกวัว โดนหมูกัด ได้กินสเต็กที่โคตรอร่อย ชีวิตมันมากครับจนผมต้องขอต่อเวลาพิเศษ บินต่อไปญี่ปุ่นเพื่อทำอาสาอีก

ชีวิตในฟาร์มที่ญี่ปุ่นต่างจากภาพของญี่ปุ่นกุลิโกะที่เรามีอยู่ในหัวมากครับ ซูชิไม่ใช่อาหารที่เค้ากินกัน แต่อาหารที่เค้าทำกินจริงๆที่บ้านนี่โคตรอร่อยครับ ได้ลองกินเนื้อม้า(ดิบ)ที่นี่ ได้ไปแช่ออนเซนเกือบทุกวัน ทำงานเสร็จเจ้าของฟาร์มก็ชอบชวนดื่มเบียร์ ใจดีสุดๆแต่ผมก็ยังไปทำจักรยานแกพังเพราะล้ม 55 แล้วที่พีคสุดของญี่ปุ่นคือ ผมเดินทางครึ่งประเทศโดยการโบกรถหะ!! พูดภาษาญี่ปุ่นได้นิดหน่อย ซึ่งก็คือคำว่า “ช็อตโตะ” หรือก็แปลว่า นิดหน่อย 🙄ครั้งแรกโบกจากภาคกลางลงใต้ใช้เวลา 3วัน 2คืน ครั้งที่2โบกจากใต้กลับมาที่ฟาร์มเดิมโดยใช้เวลา 2วัน1คืน ความรู้สึกแม่งหยั่งกะฮีโร่ครับ 555 แต่สุดท้ายงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลาครับ ......ถึงเวลาบินกลับบ้าน

ฟาร์มในฝันที่แคนาดา
สวัสดีครับ
ตัวจามรี (Yak)
เช้าอันเงียบสงบที่เมืองยูฟุอิน ประเทศญี่ปุ่น
คุณลุงเจ้าของฟาร์มผู้แสนใจดี แจกเบียร์ทุกวัน 55
ภาพพระอาทิตย์ตกหลังจากเริ่มทำนากันวันแรก
เพื่อนระหว่างโบกรถข้ามประเทศที่ญี่ปุ่น จากภาคใต้กลับภาคกลาง
บุฟเฟ่อาหารญี่ปุ่นสุดแนว กินเท่าไหร่ก็ได้ จ่ายเท่าไหร่ก็ได้
ร้านอาหารสุดฮิปที่สร้างขึ้นมากันเอง

ตกงาน 6 เดือน

ได้เวลาทำงานละโว๊ย ตั้งหน้าตั้งตาทำเรซูเม่รัวๆ

🌼 จากนั้นก็ยื่น แล้วไปสัมภาษณ์ ....ไม่ได้

🌼 ยื่นใหม่ แล้วก็ไปสัมภาษณ์ ....ก็ยังไม่ได้อีก

🌼 ยื่นอีก สัมภาษณ์อีก สัมภาษณ์อีก สัมอีก สัมอีก สัม สัม สัม .........โว้ย อะไรวะ!!! 6เดือนละ ยังไม่ได้เลย

 

ตอนนั้นต้องยอมรับว่างงมาก เพราะแบบ เห้ยเดี๋ยว! โปรไฟล์เรามันก็ไม่ได้แย่เปล่าวะ แต่สุดท้ายก็ได้งานในบริษัท E-Commerce ที่หนึ่งในบางกอก ดีใจมากครับเพราะกำลังจะเริ่มนับ 1 กับความฝัน(ปลอมๆ)

“I knew it”

ตั้งใจทำงานอยู่พักนึงครับ จนเค้าส่งไปทำที่เวียดนาม ตอนไปเวียดนามก็ตั้งใจสุดตัว ตั้งใจมากจนได้รู้จักตัวเอง ว่าจริงๆแล้วชีวิตงานในบริษัทแม่งโคตรไม่ใช่ผมเลย แถมชีวิตวุ่นวายในเมืองยังซดพลังงานชีวิตในตัวผมยิ่งกว่าซดต้มเลือดหมู ผมรู้แล้วว่าผมเหมาะกับงานศิลปะมากกว่า แล้วอะไรดลใจไม่รู้แต่ตอนนั้นคิดว่า “ช่างสัก” น่าจะเหมาะกับความสามารถของผม ตอนกลับมาไทยผมเลยไปบอกหัวหน้าครับว่าจะออกไปเป็นช่างสัก ในโมเม้นนั้นเองหัวหน้าก็บอกว่า “I knew it” คือกูรู้มาตั้งแต่ต้นละ แล้วเค้าก็ยังบอกต่ออีกว่า เค้าเห็นความเป็นศิลปินในตัวผม แล้วบอกให้ผมไปทำในสิ่งที่ชอบดีกว่า

ชอบ...แต่ยังไม่ใช่

แลนดิ่งถึงเชียงใหม่เรียบร้อย เช้าถัดมาผมก็ไปจัดลาบดิบทันที แล้วจากนั้นก็เริ่มต้นชีวิต “นักเรียนฝึกสัก” หลังจากจบผมก็มีโอกาสได้เข้าไปเป็นช่างสักให้กับร้านสักที่เชียงใหม่ ชีวิตดีเลยครับ ได้เงินจากงานที่เราชอบ แต่พอสักได้ระยะหนึ่ง...... (เพื่อนๆคงจะพอเดาได้ว่า เดี๋ยวไอ้นี่มันคงไม่ชอบอะไรสักอย่าง.....ถูกต้องคร๊าาบ) ผมรู้สึกว่ายังมีอะไรขาดไปอีกหน่อย ชอบชีวิตช่างสักนะ แต่ยังไม่ใช่ แล้วอะไรล่ะที่ขาดหายไป 

เนท กับชีวิตช่างสักบนเขา ที่เชียงใหม่
ช่างสักที่เชียงใหม่ กับเสื้อที่ผมเอาผ้ากะเหรี่ยงใช้แล้วมาเย็บรวมกัน

เจอ สัก ที

🍃 เรียนบริหารที่ไทยจบ...ก็ไปทำอาสาอยู่บนเขา

🍃เรียนบริหารที่แคนาดาจบ...ก็ไปใช้ชีวิตเปื้อนขี้วัวในฟาร์ม

🍃 พอเสร็จจากแคนาดาต้องบินกลับบ้าน...ก็ซื้อตั๋วไปโบกรถข้ามประเทศต่อที่ญี่ปุ่น

“โอ้ววววววววววว!!!! จริงๆแล้วกูชอบชีวิตเรียบง่ายในชนบทท่ามกลางธรรมชาตินี่หว่า”

ขึ้นเขาดิครับ!!

ผมตัดสินใจเผาตำราการจัดการ 101 ที่ผมได้เรียนมา แล้วขึ้นเขามาเปิดสตูดิโอสักชื่อ บ้านขจี (Baan Khagee) ในอ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ 

แน่นอนว่าอาชีพช่างสักบนเขานั้นไม่ได้ง่ายเลย แต่ผมก็มีความสุขดีที่ได้ขึ้นมา
☀️ได้ใช้ชีวิตง่ายๆ อยู่กับสีเขียวทุกวันแล้วก็ไม่ต้องไปดมควันรถในเมือง
☀️ได้สักงานที่ผมชอบซึ่งก็คือสัตว์และธรรมชาติผสมผสานกับความ”พริ้ว”

☀️ได้ปลูกผักกินเองและทำกับข้าวพื้นบ้าน
☀️ได้ให้ความสุขแก่ลูกค้าที่ขึ้นมาให้เค้ารู้สึกเหมือนได้มาหาเพื่อน
☀️แล้วก็ยังได้ทำโปรเจคเล็กๆเพื่อที่จะแจกยิ้มให้กับน้องๆข้างบนนี้
จนตอนนี้ผมพูดได้เต็มปากแล้วครับว่าผม
“เจอ สัก ที”

บ้านขจี สตูดิโอสักบนเขาในอ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
บรรยากาศสตูดิโอบ้านขจี ร้านสักที่เชียงใหม่
งานปักเสื้อรูปนกแล้วก็เลข9 บนเสื้อกะเหรี่ยงทอมือ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
บรรยากาศรับลมด้านนอกสตูดิโอของบ้านจี ร้านสักบนเขาจังหวัดเชียงใหม่

บ้านขจี - สตูดิโอบนเขา

ลายสักนกอินทรีงานดำผสมกับควันพริ้วๆ ให้อารมณ์ดาร์กๆ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
ลายสักช้างงานดำ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
งานสักหมีblackworkกับป่าสนพริ้วๆ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
งานสักพญานาคgเส้นเล็กเบาๆกับดอกบัว ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่

งานสักสัตว์ & ธรรมชาติ..พริ้วๆ
⊳ ดูรูปเพิ่ม ⊲

เนทกับสไตล์ง่ายๆ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
เนท ช่างสักงานดำ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่

ไลฟ์สไตล์เขียวๆง่ายๆ

ลูกค้าที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่ หลังจากสักงานดำเต็มแขนเสร็จ
นั่งคุยกันชิวๆกับไมค์ก่อนจะสักกัน ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
ก่อนจะเริ่มสัก ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่

บรรยากาศเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน

"นั่ง นอน ตีลังกา ได้ตามสบายครับ"

รีวิวจากน้องนิดจากกิจกรรม "สักแต่ให้" ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
รีวิวจาก Ariel เพื่อนนักมวยคนเก่ง ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
รีวิวจาก Lorri สาวน้อยชาวจีนผู้ใจดี ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
รีวิวจากหมอต้อม ไม่ใช่หมอรักษาคนนะ แต่รักษาช้าง ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
รีวิวจาก Carmelle เพื่อนจากแคนาดาที่มีปางช้างชื่อ Elephant Freedom Village ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
รีวิวจาก Walter ลูกค้าสายชิวที่กำลังจะกลับไปมีฟาร์มของตัวเองที่อเมริกา ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่

ตัวอย่างรีวิวจากเพื่อนๆลูกค้าที่ขึ้นมาสักครับ

แคชกับอีฟหลังจากได้ลอยสักไปแล้วยังใจดีขึ้นมาทำกิจกรรมร่วมกันที่ปางมะโอด้วย ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
การ์ดขอบคุณถึงลูกค้า ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
สวัสดีปีใหม่ถึงเพื่อนๆลูกค้าทุกคน ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
ชวนลูกค้ามาดื่มกาแฟพร้อมแจกของขวัญวันคริสมาส ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่

บางทีคิดถึงลูกค้า ก็ไปเรียกเค้าให้มาทำกิจกรรมด้วยกัน

ปิ้งย่างตามสไตล์ป่าๆกับเด็กๆ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
เกมส์คำศัพท์ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
ชอบรูปนี้มากครับ จนต้องเอาไปทำโลโก้สตูดิโอ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่
วันเกิดขวัญชัย เด็กๆขำกันใหญ่เพราะขวัญชัยมันเป่าเทียนไม่ดับ ที่บ้านขจี ร้านสักเชียงใหม่

น้องๆหมู่บ้านปางมะโอ ที่ร่วมแชร์ยิ้มกันมาตั้งแต่เปิดสตูดิโอ

.
.
.
อยากจะบอกน้องชายว่าขอบคุณมากที่ช่วยเหลือเรื่องออนไลน์ทุกๆอย่าง

อยากจะบอกกับครอบครัวว่าไม่ต้องเป็นห่วงครับ สบายดี 

อยากจะบอกกับลูกค้าที่ขึ้นมาทุกคนว่าดีใจมากเลยที่ขึ้นมาสักกับผม

แล้วสุดท้ายก็อยากจะบอกกับเพื่อนๆที่อยากจะมาสักที่ Baan Khagee ว่า say hi มาเลยครับ

  • Facebook
  • Instagram
  • Pinterest
  • gmail
  • what app
  • map
bottom of page